วิชา การจัดประสบการณ์ศิลปะสร้างสรรค์สำหรับเด็กปฐมวัย |
อาจารย์ผู้สอน อาจารย์กฤตธ์ตฤณน์ ตุ๊หมาด
วัน/เดือน/ปี 21/01/59
เรียนครั้งที่ 2 เวลาเรียน 08:30 - 13:30
กลุ่ม 102 วันพฤหัสบดี ห้อง 15-0707
วัน/เดือน/ปี 21/01/59
เรียนครั้งที่ 2 เวลาเรียน 08:30 - 13:30
กลุ่ม 102 วันพฤหัสบดี ห้อง 15-0707
Knowledge
กิจกรรมสร้างสรรค์
กิจกรรมที่1 มือน้อยสร้างสรรค์
Before After
กิจกรรมที่2 วาดภาพต่อเติมจากเส้นที่กำหนดให้ พร้อมตกแต่งระบายสีให้สวยงาม
Before After
ทฤษฏีที่เกี่ยวข้องกับศิลปะสร้างสรรค์
ทฤษฏีพัฒนาการ
-พัฒนาการทางศิลปะของโลเวนเฟลด์
ทฤษฏีที่เกี่ยวข้องกับความคิดสร้างสรรค์
-ทฤษฏีโครงสร้างทางสติปัญญาของกิลฟอร์ด Guilford
นักจิตวิทยาชาวอเมริกัน ศึกษาเกี่ยวกับการวิเคราะห์ของสติปัญญา
-เน้นเรื่องความคิดสร้างสรรค์ -ความมีเหตุผล -การแก้ปัญหา
ความสามารถของสมอง แบ่งออกเป็น 3 มิติ
มิติที่ 1 เนื้อหา
เกี่ยวกับข้อมูลหรือสิ่งเร้าที่เป็นสื่อที่เป็นการคิด
สองรับข้อมูลเข้าไปคิดพิจารณา 4 ลักษณะ ภาพ สัญลักษณ์ ภาษา พฤติกรรม
มิติที่ 2 วิธีการคิด
แสดงถึงลักษณะการทำงานของสมองใน 5 ลักษณะ
-การรู้จัก การเข้าใจ -การจำ -การคิดแบบอเนกนัย -การคิดแบบเอกนัย -การประเมินค่า
มิติที่ 3 ผลของการคิด
แสดงถึงผลที่ได้จากการทำงานของสมองจากมิติที่ 1 และมิติที่ 2
มี 6 ลักษณะ หน่วย จำพวก ความสัมพันธ์ ระบบ การแปลงรูป การประยุกต์
สรุป เป็นทฤษฏีเกี่ยวกับโครงสร้างทางสติปัญญา ทำให้ทราบถึงความสามารถของสมองที่แตกต่างกัน
ถึง 120 ความสามารถตามแบบจำลองโครงสร้างทางสติปัญญาในลักษณะ 3 มิติ คือ เนื้อหา 4 มิติ วิธีการ
คิด 5 มิติ และผลทางการคิด 6 มิติ รวมความสามารถทางความคิดสร้างสรรค์ด้วย คือ วิธีคิดแบบอเนก
นัย เป็นการคิดหลายทิศทาง หลายแง่มุม คิดได้กว้าง ซึ่งลักษณะการคิดนี้ จะนำไปสู่การประดิษฐ์คิดค้น
สิ่งที่แปลกใหม่
-ทฤษฏีความคิดสร้างสรรค์ของทอร์แรนซ์ Torrance
นักจิตวิทยา และนักการศึกษาชาวอเมริกัน เสนอแนวคิดเกี่ยวกับความคิดสร้างสรรค์ว่า
-ความคล่องแคล่วในการคิด -ความยืดหยุ่นในการคิด -ความริเริ่มในการคิด
แบ่งลำดับความคิดสร้างสรรค์ เป็น 5 ขั้น
- ขั้นการค้นพบความจริง เป็นขั้นเริ่มต้น ค้นพบสาเหตุ
- ขั้นการค้นพบปัญหา เป็นขั้นที่สามารถคิดได้และเกิดความเข้าใจปัญหา
- ขั้นการตั้งสมมติฐาน พยายามแก้ไขปัญหา หาทางออกโดยการตั้งสมมติฐาน
- ขั้นการค้นพบคำตอบ เป็นการทดลองสมมติฐาน เพื่อหาคำตอบ
- ขั้นตอบรับผลจากการค้นพบ ทดสอบสมมติฐานและสรุปสมมติฐาน เพื่อการแก้ปัญหาหรือทางออกที่ดีที่สุด
สรุป เป็นกระบวนการของความรู้สึกไวต่อปัญหา หรือสิ่งที่ขาดหายไป แล้วเกิดความพยายามในการ
สร้างแนวคิด ตั้งสมมติฐาน ทดสอบสมติฐาน และเผยแพร่ผลที่ได้ให้ผู้อื่นรับรู้ ขั้นความคิดสร้างสรรค์นี้มี
ลักษณะคล้ายคลึงกับขั้นการแก้ปัญหา ทางวิทยาศาสตร์ จึงเรียกว่า กระบวนการแก้ปัญหาอย่าสร้างสรรค์
-ทฤษฏีความรู้สองลักษณะ (สมอง สองซีก)
เป็นทฤษฏีที่ได้รับความสนใจ เกี่ยวกับการทำงานของสมองมนุษย์
การทำงานของสมองสองซีก ต่างกัน
สมองซีกซ้าย ทำงานส่วนความคิดที่เป็นเหตุผล
สมองซีกขวา ทำงานส่วนจินตนาการและความคิดสร้างสรรค์
- ทฤษฏีการคิดสองลักษณะ
แพทย์หญิงกมลพรรณ ชีวพันธ์ศรี กล่าวว่า คนเรามีสมอง 2 ซีก
สมองซีกขวา ซึ่งเป็นส่วนของจินตนาการและความคิดสร้างสรรค์ สามารถพัฒนาได้มากในช่วง 4-7 ปี
สมองซีกซ้าย เป็นส่วนของความคิดที่มีเหตุผล พัฒนาในช่วง 9-12 ปี เจริญเติบโตช่วง 11-13 ปี
แนวคิดเกี่ยวกับสมองสองซีกได้ถูกนำไปใช้ประโยชน์และพัฒนาการจัดการศึกษา คือ ผู้เรียนได้เรียนรู้
และทำกิจกรรมแบบบูรณาการ มีการเรียนรูแบบวัฏจักรการเรียนรู้ หรือ 4 MAT และมีการทำกิจกรรมที่
หลากหลาย
-ทฤษฏีพหุปัญญาของการ์ดเนอร์ Gardner
ผู้เชี่ยวชาญทางด้านจิตวิทยาการศึกษา ชาวอเมริกัน ศึกษาเกี่ยวกับความหลากหลายของสติปัญญา
ผู้คิดค้นทฤษฏีพหุปัญญา
ทฤษฏีพหุปัญญาจำแนกความสามารถเอาไว้ 9 ด้าน ได้แก่ ความสามารถด้านภาษา ความสามารถ
ด้านดนตรี ความสามารรถด้านกีฬาและการควบคุมการเคลื่อนไหวของร่างกาย ความสามารถด้านมนุษย์
สัมพันธ์ ความสามารถด้าธรรมชาติศึกษา ความสามารถในการคิดพลิกแพลง ความสามารถด้านตรรกะ
วิทยาและคณิตศาสตร์ ความสามารถด้านมิติสัมพันธ์ ความสามารถด้านจิตวิเคราะห์
ลักษณะสำคัญของทฤษฏีพหุปัญญา
ปัญญามีลักษณะเฉพาะด้าน ทุกคนมีปัญญาแต่ละด้าน ทั้ง 9 ด้านมากน้อยแตกต่างกัน และสามารถ
พัฒนาให้สูลขึ้นได้ และปัญญาต่างๆสามารถทำงานร่วมกันได้ และมีความหลากหลาย
-ทฤษฏีโอศา Auto
เดวิส Davis และ ซัลลิแวน Sullivan
ความคิดสร้างสรรค์นั้นมีอยู่ในมนุษย์ทุกคน และสามารถพัฒนาได้ การพัฒนาความคิดสร้างสรรค์ตามรูป
แบบโอศา มีลำดับการพัฒนา 4 ขั้นตอน
ขั้นตอนที่ 1 ความคิดตระหนัก
การพัฒนาปรีชาญาณ การรู้จักและเข้าใจตนเอง การมีสุขภาพจิตที่สมบูรณ์ มีชีวิตที่ดีกว่าเดิม
ขั้นตอนที่ 2 ความเข้าใจ
มีความรู้เนื้อหาในเรื่องบุคลิกภาพ เทคนิควิธีการความคิดสร้างสรรค์
ขั้นตอนที่ 3 เทคนิควิธี
การระดมสมอง การคิดเชิงเปรียบเทียบ การฝึกจินตนาการ เทคนิคในการฝึกความคิด
ขั้นตอนที่ 4 การตระหนักในความจริงของสิ่งต่างๆ
เปิดกว้างรับประสบการณ์ต่างๆมีความคิดริเริ่มและผลิตผลงานด้วยตนเอง
พัฒนาการทางศิลปะ
เคลล็อก Kellogg ศึกษางานขีดๆเขียนๆของเด็กปฐมวัยและจำแนกได้เป็น 4 ขั้นตอน
ขั้นที่ 1 ขั้นขีดเขี่ย Placement Stage เด็กวัย 2 ขวบ
ขีดๆเขียนๆตามธรรมชาติ เป็นเส้นตรงบ้างโค้งบ้าง โดยปราศาจากการควบคุม
ขั้นที่ 2 ขั้นเขียนเป็นรูปร่าง Shape Stage เด็กวัย 3 ขวบ
ขีดๆเขียนเป็นรูปร่างมากขึ้น เขียนวงกลมได้ ควบคุมมือกับตาให้สัมพันธ์กันมากขึ้น
ขั้นที่ 3 ขั้นรู้จักออกแบบ Design Stage เด็กวัย 4 ขวบ
ขีดๆเขียนๆที่เป็นรูปร่างเข้าด้วยกัน วาดโรงเส้นหรือวาดสี่เหลี่ยมได้
ขั้นที่ 4 ขั้นการวาดแสดงเป็นภาพ Pictorial Staga เด็กวัย 5 ขวบขึ้นไป
เริ่มแยกแยะวัสดุที่เหมือนกันได้ รับรู้ความเป็นจริง ควบคุมการขีดเขียนได้ วาดสามเหลี่ยมได
พัฒนาการด้านร่างกาย
กีเซลล์และคอร์บีน สรุปพัฒนาการด้านการเคลื่อนไหวของเด็กปฐมวัยตามลักษณะพฤติกรรมทางการใช้กล้ามเนื้อใหญ่และกล้ามเนื้อเล็ก
ด้านการตัด
อายุ 3-4 ปี ตัดกระดาษเป็นชิ้นส่วนเล็กได้
อายุ 4-5 ปี ตัดกระดาษเป็นเส้นตรงได้
อายุ 5-6 ปี ตัดกระดาษตามเส้นโค้งหรือรูปต่างๆได้
การขีดเขียน
อายุ 3-4 ปี เขียนรูปวงกลมตามแบบได้
อายุ 4-5 ปี เขียนรูปสี่เหลี่ยมจตุรัสตามแบบได้
อายุ 5-6 ปี เขียนรูปสามเหลี่ยมตามแบบได้
การพับ
อายุ 3-4 ปี พับและพับสันกระดาษสองทบตามแบบได้
อายุ 4-5 ปี พับและพับสันกระดาษสามทบตามแบบได้
อายุ 5-6 ปี พับและพับสันกระดาษได้คล่องแคล่ว
การวาด
อายุ 3-4 ปี วาดภาพคนได้
อายุ 4-5 ปี วาดส่วนประกอบต่างๆของคนได้
อายุ 5-6 ปี วาดเป็นมิติได้
กิจกรรมที่1 มือน้อยสร้างสรรค์
Before After
กิจกรรมที่2 วาดภาพต่อเติมจากเส้นที่กำหนดให้ พร้อมตกแต่งระบายสีให้สวยงาม
Before After
Skill
- ทักษะการคิด
- ทักษะการตอบคำถาม
- ทักษะการวาดภาพ
Adoption
การนำความรู้ไปศึกษา เพื่อเพิ่มความรู้ให้กับตนเองมากยิ่งขึ้นและนำไปปรับใช้ในการสอนศิลปะสร้างสรรค์กับเด็กปฐมวัยได้อย่างถูกต้อง ให้เด็กได้ระบายสีภาพที่วาดด้วยเองเองโดยที่ครูปล่อยให้เด็กได้ใช้จินตนาการของตนเอง เด็กจะได้มีความอิสระ และความคิดสร้างสรรค์มากยิ่งขึ้น
Evaluation
Self = เข้าเรียนตรงต่อเวลา การแต่งตัวเรียบร้อย ร่วมทำกิจกรรมและตั้งใจทำกิจกรรม ทุกๆกิจกรรม และได้พัฒนาความคิดของตนเองด้วย
Friends = เพื่อนๆส่วนใหญ่ก็จะตั้งใจฟังอาจารย์ดี และตั้งใจทำกิจกรรม
Teacher = อาจารย์จะสอนและคอยอธิบายให้นักศึกษาฟังอย่างละเอียดเสมอและคอยกระตุ้นให้ นักศึกษาฝึกการคิดตามและเห็นภาพ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น